หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สีหลอดไฟทำไมต่างกัน??

สีหลอดไฟทำไมต่างกัน??


แสง warm white คืออะไร?

แสง cool white และ Daylight แล้วมันต่างกันอย่างไร มารู้จักกัน ?




          ในการเลือกซื้อหลอดไฟ เมื่อเราเดินไปที่ร้านขายอะไหล่วัสดุก่อสร้างทั่วไปหรือตามห้างสรรพสินค้า เรามักจะพบเห็นจะคำ ว่า “Warm white , Cool white , Daylight ” ตามข้างหน้ากล่อง หรือด้านข้างกล่องของสินค้า ที่เป็นประเภทหลอดไฟจำพวกที่เปล่งแสงออกมาเองในสีที่ต่างกัน


Warm white


          คืออุณหภูมิของสีอยู่ในช่วงประมาณ 2,700-3,300 องศาเคลวิน (K) จะเหมาะสำหรับภายในห้องที่มีความกว้างของพื้นที่ ที่ส่องแสงตกกระทบ หรือการกระจายแสงที่ไม่มาก เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องโถงเล็กๆ หรือตามทางเดิน เป็นต้น


แสง White หรือ Cool white


          จะเป็นชื่อเรียกของอุณหภูมิสีของแสง อยู่ในช่วงประมาณที่ 4,000-5,000 องศาเคลวิน (K) จะมีการเพิ่มอุณภูมิแสงมากขึ้น ทำให้มีแสงที่ตกกระทบ และการกระจายตัวแสงได้ดีมากกว่า และมีความร้อนมากกว่า เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเหมาะสำหรับการใช้งานติดตั้ง ในห้องทำงาน ห้องครัวเรือน ห้องเรียน สำนักงานต่างๆ ห้องน้ำ หรือไม่ว่าจะเป็นห้างร้านค้าต่างๆ เพราะต้องการควาสว่างที่มากขึ้นกว่าชนิด Warm white


Daylight


          คืออุณหภูมิแสงสีอยู่ในช่วงที่ประมาณ 5,500-6,000 องศาเคลวิน (K) เหมาะสำหรับพื่นที่ ที่ต้องการแสงสว่างที่มากกว่าระดับ Warm white เพราะด้วยอุณภูมิที่เพิ่มขึ้น ก็จะมีแสงสว่างมากขึ้นมากเช่นกันซึ่งจะเหมาะสำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า อาคารใหญ่ๆ หรือจะเป็นพิพิธภัณฑ์งานศิลปะ ที่ต้องการใช้แสงสว่างส่องให้กับผลงานเพื่อความสวยงาม


วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อินเวอร์เตอร์สำหรับปั๊มน้ำจากเซลล์แสงอาทิตย์

อินเวอร์เตอร์สำหรับปั๊มน้ำจากเซลล์แสงอาทิตย์
( Solar Pumping Inverter )

            อินเวอร์เตอร์สำหรับปั๊มน้ำจากเซลล์แสงอาทิตย์ เทคโนโลยีที่เตรียมพร้อมสำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั่วประเทศไทย

ระบบปั๊มน้ำจากเซลแสงอาทิตย์


พลังงานที่มนุษย์ใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. พลังงานสิ้นเปลือง คือ พลังงานที่ใช้แล้วหมดไป
   เช่น  น้ำมัน เชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
2. พลังงานหมุนเวียน คือ พลังงานเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอด
  เช่น น้ำ แสงอาทิตย์ ลม เป็นต้น


            ในปัจจุบันเรามีอัตราการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เองจากการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างรวดเร็วและความต้องการความสะดวกสบายที่พิ่มขึ้นทำให้เราต้องใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
ซึ่งเวลาผ่านไปเราได้ใช้พลังงานสิ้นเปลืองจนมีจำนวนลดลง และมีราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เรื่องพลังงานส่งผมกระทบต่อประชาชนทั่วไปเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกประเทศในโลกได้ตระหนักถึง


สระพักน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร

            สำหรับประเทศไทยในปัจจุบันได้มีการใช้ มีการใช้พลังงานเพื่อการเกษตรเป็นจำนวนมาก เช่น การสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ซึ่งมีต้นทุนค่าพลังงานที่เราใช้เป็นจำนวนมากเช่นค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น หรือการใช้ไฟฟ้าที่แสนแพง



ปั๊มน้ำแบบAC




            ทำให้เกษตรกรต้องหาวิธีการเทคนิคที่ใช้เพื่อประหยัดพลังงานในการสูบน้ำ ซึ่งเทคนิคหนึ่งที่นิยมใช้กันมากได้แก่ การใช้ปั้มน้ำจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการระบบที่นำเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำไปใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องสูบน้ำทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือไฟฟ้าจากการไฟฟ้า ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมากและเป็นพลังงานทดแทนที่ไม่มีวันหมด และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย


การใช้อินเวอร์เตอร์




            ปัจจุบันปั๊มน้ำที่ใช้พลังงานไฟฟ้าโดยตรงจากแผงโซล่าเซลล์ ต้องใช้ปั๊มน้ำแบบ DC (DC Pump) ซึ่งมีขนาดกำลังขับต่ำ และไม่มีชนิดของปั๊มน้ำให้เลือกตามความต้องการใช้มากนัก แต่มีข้อดีที่จะมีราคาต่ำกว่า  การใช้ปั๊มน้ำแบบ AC (AC Pump) ซึ่งในท้องตลาดมีให้เลือกใช้ หลายรุ่นหลายแบบ หลายกำลังขับ และจำเป็นต้องใช้อินเวอเตอร์ในการเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไปเป็นกระแสสลับก่อนถึงจะใช้งานได้


ปั๊มน้ำ DC


            อินเวอเตอร์ก็มีให้เราเลือกใช้ได้หลากหบายรูปแบบ ซึ่งข้อจำกัดของอินเวอเตอร์โดยทั่วไป คือ ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เมื่อต้องรับแรงดันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามความเข้มของแสงอาทิตย์ที่มีความไม่แน่นอนที่ขึ้นอยู่สภาพภูมิอากาศในแต่ละช่วงเวลาหรือพื้นที่ และบางครั้งจำเป็นต้องใช้จำนวนแผงโซล่ามากเกินความจำเป็น และทำให้ต้นทุนสูงขึ้น  แต่ในปัจจุบันเรามี โซล่าปั๊มอินเวอร์เตอร์อัจริยะ ที่สามรถใช้แผงโซล่าเซลล์ที่น้อย และขับปั๊มน้ำไม่ต้องใช้แบบเตอรี่ Quick connect ซึ่งจะทำให้มีการประหยัดต้นทุนในการซื้อแผงโซล่าเซลล์ด้วย


โซล่าปั๊มอินเวอร์เตอร์อัจริยะ





วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เรื่องน่ารู้ของสายไฟฟ้า


เรื่องน่ารู้ของสายไฟฟ้า

          
         "ในการเลือกขนาดสายไฟฟ้า ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน กล่าวคือถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้ากินกระแสไฟฟ้ามาก เราก็ต้องเลือกใช้ขนาดสายไฟฟ้าใหญ่ ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้ากินกระแสไฟฟ้าน้อย เราก็ใช้สายไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กลงมา ตามพิกัดกระแสของสายไฟ และเลือกสายไฟให้ถูกประเภท ว่าเราใช้ไฟ กระแสสลับ (AC) หรือกระแสตรง (DC)"

สายไฟแต่ละชนิด
    สายไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ส่งพลังงานไฟฟ้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยกระแสไฟฟ้าจะ เป็นตัวนำพลังงานไฟฟ้าผ่านไปตามสายไฟจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟทำด้วยสารที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ เรียกว่าตัวนำไฟฟ้า และตัวนำไฟฟ้าที่ใช้ทำสายไฟเป็นโลหะที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ดี ลวดตัวนำแต่ละชนิดยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ต่างกัน ตัวนำไฟฟ้าที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้มากเรียกว่ามีความนำไฟฟ้ามากหรือมีความต้านทานไฟฟ้าน้อย ลวดตัวนำจะมีความต้านทานไฟฟ้าอยู่ด้วย โดยลวดตัวนำที่มีความต้านทานไฟฟ้ามากจะยอม ให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้น้อย



การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากระแสตรง DC
พิกัดกระเเสสายไฟแต่ละขนาด

    สาย PV1-F เป็นสายไฟสำหรับไฟ DC ออกแบบมาเพื่อระบบโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะ เป็นสายทองแดงเคลือบดีบุก หุ้มฉนวน ชั้น ทดความร้อน การออกแบบระบบ จะต้องระมัดระวังในการพิจารณา เลือกชนิดและขนาดสายไฟให้เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบ หากเลือกสายไฟที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดความร้อนสูงและเกิดไฟไหม้จากกระแสที่มากเกินได้

    การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ต้องใช้สายไฟสำหรับโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะ ต้องมีความสามารถทนอุณหภูมิได้ไม่น้อยกว่า 80 องศาเซลเซียส ซึ่งเรียกสายสำหรับโซลาร์เซลล์ ว่า PV / PV1-F ภายในสาย PV1-F ประกอบด้วยสายเส้นเล็กๆ จำนวนมาก ทำให้เหมาะกับไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ไฟไหลผ่านได้ดี เพราะไฟฟ้าระบบกระแสตรง จะวิ่งที่ขอบของสายไฟเส้นเล็กๆ มีค่าความสูญเสียการไฟฟ้าน้อยกว่า การใช้สายไฟเส้นใหญ่ๆเพียงเส้นเดียว และสายยังเคลือบด้วยดีบุก เพื่อป้องกันการกัดกร่อน หรือตระใคร่เมื่อเกิดความชื้น สายไฟชนิดนี้สามารถทนอุณหภูมิ ทั้งภายในและภายนอกสายไฟได้ สูงมากกว่า 90 องศาเซลเซียส

สายไฟ DC 

    รวมถึงการเลือกใช้ขนาดสายไฟ และการต่อเชื่อมที่ถูกต้อง จะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องไปดูแลรักษาเป็นเวลานาน และปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน การเลือกชนิดและขนาดสายไฟได้ถูกต้อง จะช่วยเพิ่มสมรรถนะ และความเชื่อถือของระบบเซลล์แสงอาทิตย์ โดยสายไฟจะต้องมีขนาดเพียงพอ ที่จะให้ปริมาณไฟฟ้ามากที่สุด ไหลไปตามสายไฟได้ และเกิดการสูญเสียแรงดันในสายไฟน้อย รวมถึงสายไฟควรมีระยะสั้นเท่าที่จำเป็น เนื่องจากสายไฟมีความต้านทานอยู่ จึงต้องมีแรงดันในการผลัก ให้กระแสไหลไปตามสายไฟ ถ้าความต้านทานของสายไฟมากขึ้น ยิ่งต้องใช้แรงดันมากขึ้น ปริมาณแรงดันที่ใช้ผลักกระแสนี้เรียกว่า แรงดันตกในสายไฟ


การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากระแสสลับ AC




    การเลือกสายไฟฟ้ากระแสสลับ ที่ใช้งานในบ้านให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัย เราจะดูจากโหลดการใช้งาน หรือกระแสไฟฟ้า แอมแปร์ที่ไฟฟ้าไหลผ่าน โดยเผื่อค่าความปลอดภัยอย่างน้อย 25% เพื่อป้องกันสายไฟร้อนจัด จนเกิดไฟลุก เพราะใช้กระแสเกินพิกัด


สายไฟกระแสสลับ (AC)
พิกัดกระเเสสายไฟแต่ละขนาด

สายไฟฟ้า THW   เป็นสายฟ้าที่ทนแรงดันไฟฟ้าได้มากถึง 750โวลต์(แล้วแต่ขนาด) มีฉนวนพีวีซีหุ้ม1ชั้น และเป็นสายเพียงเส้นเดียว การติดตั้งต้องร้อยเข้าไปในท่อร้อยสายไฟฟ้าอีกทีหนึ่ง เพื่อป้องกัน กรณีที่ต้องการฝังท่อในผนังคอรกรีต หรือเดินบนฝ้าเพดาน สาย THW นี้ ไม่แนะนำให้ติดตั้งนอกอาคาร หรือฝังใต้ดิน ไม่ให้สายสัมผัสกับดินหรืออากาศโดยตรง จะต้องร้อยเข้าไปในท่อไฟฟ้าก่อนเท่านั้น

สายไฟฟ้า VAF    เป็นสายไฟฟ้าที่สามารถทนแรงดันไฟฟ้า 300 โวลต์(ไฟตามบ้านเรามีแรงดัน220โวลต์) เป็นสายที่มี 2เส้น หรือ 3เส้น ในสายเส้นเดียว หุ้มด้วยฉนวนพีวีซี 2ชั้น สำหรับการติดตั้งภายในอาคารเท่านั้น ไม่ควรนำสาย VAFไปติดตั้งนอกอาคาร หรือฝังใต้ดินเด็ดขาด เพราะฉนวนที่หุ้มสาย VAF นี้ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศ แสดงดิน หรือสารอินทรีย์ที่อยู่ในดินได้นาน ที่เราสามารถเห็นได้โดยทั่วไป ที่ติดตั้งกับผนังหรือเพดานบ้าน ด้วยเข็มขัดรัดสาย หรือ Clip รัดสาย

สายไฟฟ้า VCT  เป็นสายไฟฟ้าที่สามารถฝังใต้ดิน หรือติดตั้งนอกอาคารได้ เช่นใช้สำหรับสายโคมไฟฟ้า ในสวนหน้าบ้าน หรือสายไฟฟ้าที่จ่ายไปยังปั๊มน้ำรดน้ำต้นไม้ เป็นสายอ่อนที่มีฉนวนหุ้ม ชั้น และฉนวนชั้นนอก เป็นสามารถทนต่อสภาพอากาศ แรงสั่นสะเทือนได้ดี ทนแรงดันไฟฟ้าได้มาถึง750โวลต์
สายไฟ AC

แรงดันที่สูญเสีย=กระแสไฟฟ้า X [0.02 X ความยาว(ม) / พื้นที่หน้าตัด (มม.2)]